วันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เท้าเปล่าเล่าเรื่อง ตอน Ekiden อีเก้งเก้ง เอ้ย อีเด้งเก้ง เอ้ย อีกีเด้ง เอ้ยย ถูกแล้วววว

      ย้อนไปสมัยตอนนักวิ่งหน้าโบราณอย่างเรายังเป็นเด็กๆ ผมเคยเล่นวิ่งผลัด ชอบมาก เราจะวิ่งได้ดีกว่าพี่ๆน้องๆคนอื่นๆ เพราะพี่น้องส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิงเกือบทั้งหมด น่าภูมิใจมากกก 5555 แต่การวิ่งผลัดแบบนั้นเป็นการเล่นระยะสั้นๆ แต่ก็สนุกในแบบฉบับของเด็กๆล่ะครับ จนโตเกือบจะแก่ละ ได้กลับมาวิ่งอีกครั้ง วิ่งตามงานมินิมาราธอนต่างๆ ก็สนุกดีแต่ก็ยังไม่มีงานไหนที่แปลกแตกต่างไปจากงานทั่วๆไป จนวันนึงน้องในกลุ่มมาชวนไปวิ่ง Ekiden กัน





   ??????? อ่านแล้วก็ทำหน้ามึนๆ อะไรคือ Ekiden???  Ekiden คืออารายย??? จนเข้าไปอ่านรายละเอียดด้านใน แล้วรถเมล์ก็จอดลงที่บางอ้อ

Ekiden เป็นรายการวิ่งแบบผลัดระยะไกล เริ่มต้นครั้งในประเทศญี่ปุ่น ในปี 1917 โดยหนังสือพิมพ์ Yomiuri Shimbun เป็นการวิ่งระยะสามวัน เส้นทางระหว่าง จากเมืองหลวงเก่า เกียวโต ไปจนถึงเมืองหลวงใหม่ โตเกียว ระยะทางที่วิ่ง 508 กิโลเมตร ใช้สายสะพายสีที่ชื่อ  "ทาซูกิ" เป็นอุปกรณ์การผลัดครับ



  รายการนี้ถือเป็นการจัดครั้งแรกในประเทศไทย  Uniuque Running เป็นเจ้าภาพในการจัด ด้วยความที่เป็นรายการแปลกใหม่ นักวิ่งจึงตอบรับเป็นอย่างดี  สมัครกันมาเป็นจำนวนมาก ประเภทของการวิ่งก็จัดนักวิ่งทีมละห้าคน มีแบบ ชายล้วน หญิงล้วน และทีมผสม นักวิ่งที่มาวิ่งเป็นนักวิ่งหน้าประจำที่พบปะกันตามงานวิ่งเสมอ งานนี้ทีมเท้าเปล่าส่งไปวิ่งสนุกกันสามทีม และมีน้องบางคนก็ไปวิ่งร่วมกับเพื่อนกลุ่มๆอื่นกันอยู่บ้าง

สถานที่จัดงานจัดที่สวนรถไฟ ไม้ผลัดหนึ่งและสอง จะวิ่งสี่รอบสวนรถไฟ ไม้ผลัดสามสี่วิ่งสามรอบ และไม้ผลัดห้าวิ่งสองรอบ ระยะรวมก็ 41 กิโลเมตร ผมได้รับมอบหมายเป็นไม้หนึ่ง




 การวิ่งตามงานทุกครั้งผมจะไม่ค่อยใส่ใจกับการยืนหน้าเส้นปล่อยตัวเท่าไหร่ จะยืนทางหลังๆ สบายๆ ยืนคุยกับเพื่อนหัวเราะคิดคักๆไป ปล่อยตัวก็เดินๆขยับๆตามเค้าไปบางงานก็เกือบห้านาทีกว่าจะออกจากเส้น  แต่งานนี้ไม่ได้เป็นอย่างนนั้นเลย หลังเสียงปล่อยตัวดังทุกคนต่างเร่งสปีดออกไปเร็วมาก ผมรู้สึกถึงแรงผลักดันให้เราต้องวิ่งตามไปด้วยความเร็วนั้น เพื่อนๆน้องๆทีมอีกสองทีมก็เร่งตามออกไป วิ่งไปได้ระยะสัก 200-300 เมตรก็เหลือบหันมามองดู ความเร็วที่วิ่งอยู่ขณะนั้น Pace อยู่ที่ 4 นาทีกว่าๆต่อนาที ต่างจาก Pace ปกติที่ผมวิ่งอยู่มาก คิดใจว่าหากวิ่งตามด้วยความเร็วนี้คงไม่ครบรอบแน่นอน เลยตัดสินใจดึงความเร็วลงเพื่อกลับมาสู่ความเร็วของตัวเอง ปล่อยให้วิ่งกันไปครับ ผมไม่รีบบบบ 555555



วิ่งไปได้สักพักก็รู้สึกว่าร่างกายไม่สดเท่าที่ควร มีอาการตึงๆที่หลังต้นขาอันเนื่องจากอาทิตย์ที่ผ่านมาซ้อมแต่ความเร็ว กล้ามเนื้อเลยยังไม่ฟื้น ต้องค่อยๆวิ่งไปดีกว่า วิ่งไปได้สามรอบก็ได้ยินเจ้าหน้าที่วิทยุคุยกันว่ามีคนบาดเจ็บ แต่วิ่งต่อไปแล้ว วิ่งต่อสักพักก็เจอคนบาดเจ็บเป็นเพื่อนนักวิ่งผลัด1 ทีมอื่นนอนอยู่ที่พื้นตรงจุดให้น้ำไม่แน่ใจว่าเป็นลมหรือบาดเจ็บ ซึ่งอยู่ในการดูแลจากเจ้าหน้าที่อย่างดี วิ่งจนครับสี่รอบก็เปลี่ยนให้เพื่อนที่อยู่ผลัดสองวิ่งต่อไป



บรรยากาศในสนามวิ่งเต็มไปด้วยความตั้งใจของนักวิ่ง ทุกคนเอาจริงเอาจังกับการวิ่งมาก แต่ข้างทางกลับเหมือนงานปิกนิค เต็มไปด้วยมิตรภาพ สนุกสนาน มีการจับกลุ่มกันยืนเชียร์นักวิ่งแม้ไม่ใช่นักวิ่งของทีมตันเอง มีอาหารการกินที่เตรียมกันมาเอง มีการแบ่งปันอาหารให่แก่เพื่อนนักวิ่งกลุ่มต่างๆ ดูแล้วรู้สึกดีมากๆในบรรยากาศการแข่งขันประเภทนี้







อย่างที่เคยเล่าไว้ก่อนหน้านี้ครับว่านักวิ่งเป็นนักวิ่งหน้าเก่าที่มีประสบการณ์กันแทบทั้งนั้น เวลาแต่ละทีมจึงเข้าเส้นได้ก่อนกำหนด ยังคงเหลือแต่นักวิ่งรุ่นใหม่เพียงไม่กี่ทีมที่ยังคงไม่เข้าเส้นชัย เวลาก็เขยิบใกล้ถึงสิบเอ็ดโมงตามกำหนดเวลาที่จะต้องหยุดการแข่งขัน ยังคงมีนักวิ่งที่ยังไม่เข้าเส้นและที่ยังไม่ได้ลงวิ่งอีกนิดหน่อย และหนึ่งในนั้นคือนักวิ่งเท้าเปล่าน้องใหม่ของกลุ่ม ที่ยังผ่านงานวิ่งมานับครั้งได้ งานนี้ได้เห็นน้ำใจเพื่อนๆพี่ๆนักวิ่งเท้าเปล่ากันเต็มที่เลยครับ ( ให้เดานะครับว่าน้องคนไหน 5555 )




ถึงเวลาที่น้องจะลงไปวิ่งผลัดห้า เพื่อนๆพี่ทุกๆคนต่างลุกกันออกมาจากที่นั่งเพื่อออกไปวิ่งกับน้อง ทั้งที่แดดก็เริ่มร้อน พื้นเริ่มระอุจากไอแดด ระยะทาง 5 กิโล แต่ทุกคนก็ยังตั้งใจวิ่งเป็นเพื่อนน้องคนนี้ วิ่งกันไปหัวเราะกันไป นักวิ่งที่กำลังจะเดินทางกลับและที่ยังถ่ายภาพเล่นข้างทางที่ยังไม่กลับก็ปรบมือให้กำลังใจตลอดทาง เป็นภาพประทับใจสุดท้ายก่อนงานจะเลิก จากนั้นก็ถ่ายรูปเล่นกันและร่วมทานข้าวกับทีมงานที่จัดไว้ให้ ก่อนที่จะแยกย้ายกันไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ




ขอบคุณทีมงานยูนิครันนิ่งสำหรับงานสนุกๆ ขอบคุณทีมงานภาพชัตเตอร์รันนิ่งสำหรับภาพสวยๆและเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวตีนดำทุกคนๆครับ





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น